วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ดอกไม้ประจำชาติของมัลดีฟส์ ดอกกุหลาบสีชมพู

ดอกไม้ประจำชาติของมัลดีฟส์ 
 ดอกกุหลาบสีชมพู
 สวัสดีค่ะวันนี้จะพาไปรู้จักกับดอกไม้ประจำชาติมัลดีฟส์ อย่างที่ทราบกันดีนะค่ะว่าดอกไม้ประจำชาติของมัลดีฟส์ นั้นคือก็ดอกกุหลาบสีชมพูไปรู้จักกันเลยค่ะ.



กุหลาบ 


ชื่อวิทยาศาสตร์ :Rosa hybrids


ชื่อสามัญ: Rose


ชื่อวงศ์: ROSACEAE
   เพราะความสวยงามของดอกกุหลาบ ทำให้ผู้คนต่างนิยมปลูกกันไว้เพื่อตกแต่งอาคารบ้านเรือน ตกแต่งสวน ใช้ประดับตามสถานที่ต่างๆ หรือปลูกเป็นการค้า โดยตัดดอกไปขาย หรือนำไปสกัดเป็นน้ำหอม เป็นต้น
   กุหลาบตัดดอกที่นิยมปลูกกัน ดอกจะมีขนาดโต ที่เรียกกันว่า ไฮบริดที(Hybird Tea) มักออกเป็นดอกเดี่ยวๆ กลีบดอกซ้อน ทรงพุ่มตั้งตรง มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร สำหรับพันธุ์สีชมพูที่นิยมปลูกกันทั่วไป ก็อย่างเช่น พันธุ์มิสออลอเมริกาบิวตี้ หรือมาเรีย, คาสลาส, ไอเฟลทาวเวอร์, สวาทมอร์, เฟรนด์ชิพ, เพอร์ฟูมดีไลท์, จูวังแซล, เฟิร์สท์ไพรซ์, อเควเรียส, ซูซานแฮมเชียร์



การขยายพันธุ์
  ทำได้โดยการปักชำ ตอนกิ่ง ติดตา หรือเพาะเมล็ด ช่วงต้นฤดูฝน-ฤดูหนาว จะเหมาะกับการปลูกกุหลาบมากที่สุด หากปลูกในฤดูร้อนอาจได้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร
สถานที่ใช้ปลูกกุหลาบควรเป็นที่โล่งแจ้ง มีแสงสว่างส่องถึงอย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง สำหรับดินที่ใช้ปลูกกุหลาบควรเป็นดินที่มีธาตุอาหารอยู่อย่างสมบูรณ์ มีความร่วนซุย สามารถเก็บความชื้นและระบายน้ำได้ดี มีค่า pH ระหว่าง 5.5-6.8 ก่อนปลูกควรขุดหลุมปลูกให้ลึกประมาณ 1 ฟุต แล้วตากทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก ขุยมะพร้าว เปลือกถั่ว ฟางผุ เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 60 ซม. จากนั้นนำต้นลงปลูก กลบดิน คลุมแปลงเพื่อรักษาความชื้นด้วยฟางข้าว เศษหญ้าแห้ง หรือเปลือกถั่ว และรดน้ำให้ชุ่ม
การให้น้ำแก่กุหลาบขึ้นอยู่กับสภาพดินและฤดูกาลที่ปลูก หรือควรให้ในระดับที่ลึกลงไปในดินประมาณ 16-18 นิ้ว เพื่อให้ถึงระดับรากใต้สุด ไม่ควรให้จนชื้นแฉะจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย
เพื่อเป็นการเร่งให้กุหลาบเจริญเติบโต ควรให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูงหลังจากที่ปลูกไปได้ประมาณ 15 วันแล้ว และให้ครั้งต่อไปทุกๆ 15-20 วัน เมื่อเริ่มให้ดอกจึงค่อยใส่ปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสเพื่อเร่งดอก ควรรดน้ำตามทันทีทุกครั้งหลังจากการใส่ปุ๋ย
การตัดแต่งกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง ในระยะแรกควรตัด 2 ครั้ง/เดือน และตัดเดือนละครั้งเมื่อเข้าปีที่สองแล้ว การตัดแต่งกิ่งจะทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ไม่ควรตัดให้ชิดตาจนเกินไป หลังจากตัดแล้วให้ใช้สีน้ำมันหรือปูนแดงทาป้องกันการเข้าทำลายขอเชื้อรา และหนอนเจาะลำต้นด้วย ควรใช้มีดหรือกรรไกรสำหรับตัดที่คมและสะอาด โดยตัดทำมุมเฉียง 45 องศา เพื่อป้องกันน้ำขังซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเน่าได้
 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น