วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ดอกไม้ประจำชาติลาวดอกลีลาวดี

  ดอกไม้ประจำชาตลาว
  "ดอกลีลาวดี"
  


     สวัสดีค่ะวันนีเราจะพาทุกคนมารู้จักกับดอกไม้ประจำชาติลาวนั้นก็คือดอกลีลาวดีไปรู้จักกันเลยค่ะ







ดอกลีลาวดี
      คนไทยคงคุ้นเคยกับชื่อของดอกลั่นทม ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อให้สวยหรูกว่าเดิมเป็น ลีลาวดี เป็นอย่างดี ซึ่งสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนชื่อก็เพราะคำว่า ลั่นทม ไปพ้องกับคำว่า ระทม ที่มีความหมายว่าเศร้าโศกเสียใจนั่นเอง โดยชื่อ ลีลาวดี นั้น เป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีความหมายว่า “ดอกไม้ที่มีท่วงท่าสวยงามและอ่อนช้อย” นั่นเอง
   นอกจากจะเป็นดอกไม้ที่ความหมายเป็นมงคลแล้ว ลีลาวดี ยังเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมปลูกเพิ่มมากขึ้น เพราะประโยชน์ของมันตั้งแต่ดอกที่ร่วงหล่นไปตามพื้นเลยทีเดียว
   ในส่วนของใบและดอกที่ร่วงหล่นตามพื้นดินนั้น อย่าเพิ่งคิดว่ามันไม่มีค่านะ เพราะในประเทศไทยได้มีการวิจัยนำมาผลิตเป็นชาดอกลีลาวดี เพื่อปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคสาเหตุของอาการเจ็บป่วย ดอกลีลาวดีใช้ผสมกับพลู ทำเป็นยาแก้ไข้และไข้มาลาเรีย  ทั้งยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรที่มีคุณค่าต่อสุขภาพมากอีกด้วย
   ใบลีลาวดีแห้งนำมาชงกับน้ำร้อนดื่ม ช่วยรักษาโรคหืดหอบ หรือจะใช้ใบสดชงกับน้ำร้อน ช่วยรักษาหิด หรือจะนำใบสดมาลนไฟประคบร้อนช่วยแก้อาการปวดบวมได้
ช่วยรักษาโรคหนองในแท้  ใช้เปลือกต้นผสมกับน้ำมันมะพร้าว มันเนย และข้าว ทำเป็นยาแก้ท้องเดิน หรือใช้เปลือกต้นผสมกับน้ำมันมะพร้าว มันเนย และข้าว ทำเป็นยาขับปัสสาวะ
นอกจากกลิ่นหอมของดอกลีลาวดีจะช่วยให้นอนหลับสบายและอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เรายังสามารถนำดอกมาตากแห้งแล้วใช้ชงชาดื่ม มีรสชุ่มคอ  ช่วยดับกลิ่นปาก แก้อาการไอ ไอเรื้อรัง ไอแห้ง อาการเจ็บคอ ละลายเสมหะ เหมาะกับคนเป็นหวัดบ่อยๆ
   หากนำมาผสมกับดอกไม้ชนิดอื่นอย่างจำปา หรือกระดังงา แห้งยังช่วยบำรุงเลือด ลดความเสี่ยงจะเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน รวมทั้งยังช่วยลดน้ำตาลในเลือดอีกด้วย
และหากนำมาดอกมาผสมกับยาหรือสมุนไพรชนิดอื่นๆ จะใช้เป็นยาถ่าย ป้องกันโรคริดสีดวงทวารด้วยด้วยกลิ่นหอมของดอกลีลาวดีซึ่งยังช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดีตามไปด้วย ยังมีความเชื่อว่ากลิ่นของดอกลีลาวดีจะช่วยลดความรู้สึกทางเพศอีกด้วย
   คุณประโยชน์ของดอกลีลาวดีมากมายขนาดนี้ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ไทยที่เราไม่ควรมองข้ามจริงๆ ใครที่อยากรักษาอาการป่วยของตัวเองในแบบธรรมชาติก็ลองทำตามวิธีที่เอามาฝากกันดูนะค รับรองว่าไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแน่นอน



ที่มา:https://www.myu-nique.com/blog/%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5%20%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD?id=116

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น